สวัสดีเพื่อน ๆ สมาชิกชาว เอส.แอล.ฟิชชิ่ง ที่เคารพรักทุก ๆ ท่านครับ หลังจากดองทริปจนได้ที่แล้ว วันนี้ถือเป็น ฤกษ์งามยามดี ที่จะได้นำเรื่องราวมาถ่ายทอดให้เพื่อน ๆ ได้ติดตามกันครับ ทริปนี้ผมเองได้เดินทาง จาก กทม. เพื่อไปเจอกับสมาชิกท่านอื่น ๆ กันที่ ร้าน เอส.แอล.ฟิชชิ่ง ก่อนหน้าที่ผมจะไปถึงนั้น น้องนิ หนึ่งในสมาชิก ได้ขับรถระยะทางหลายร้อยกิโล หรือ พันกิโลผมเองก็ไม่แน่ใจไปรอกันที่ สุราษฏร์ ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าจัดเต็มกันมาก ๆ สำหรับทริปนี้ของพวกเรา หลังจากผมเดินทางไปถึงพักค้างอีกหนึ่งคืน เช้าของอีกวัน ก็ได้เวลาออกเดินทางเพื่อนไปตกปลาที่ จ.สตูล โดยมีการรวมตัวกันที่ร้าน สมาชิกที่เดินทาง มาจาก จ.ชุมพร พี่ก้อง ทุ่งคาฟิชชิ่ง ก็มาเป็นคนแรก
สำหรับ สมาชิกในทริปนี้ ที่ออกเดินทางกันจาก เอส.แอล.ฟิชชิ่ง มีใครกันบ้าง
- พี่สม LF
- พี่นก SLFISHING
- พี่ก้อง ทุ่งคาฟิชชิ่ง
- พี่เล็ก ดอนสัก
- พี่บิว โพธิ์น้อยฟิชชิ่ง
- น้าเอก
- พี่จ๋อย
- เพื่อนวุฒิ
- น้องนิ อุบลฯ
เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็จัดแจงอุปกรณ์ทั้งหมดขึ้นรถและแล้วก็ได้เวลาเดินทาง เมื่อเราถึงสตูล แล้วก็ได้ทำการติดต่อ สมาชิก อีก 2 ท่าน ตามที่ได้นัดเจอกัน นั้นก็คือ
- พี่โปรหยัด หัวโค้งฟิชชิ่ง
- พี่บังโหรน Amazon Fishing team
เมื่อเจอกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาขนของที่เราเตรียมมาทั้งหมดลงเรือ ณ ท่าเทียบเรือปากบารา จังหวัดสตูล
สำหรับทริปนี้ เราใช้บริการเรือ ย.นำเจริญ โดย ไต๋ยี
หลังจากขนของ จัดแจงอุปกรณ์ทั้งหมดลงเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ทานข้าวกันก่อน หลังจากนั้นก็พร้อมที่จะลง และเดินทางไป ณ หมายตกปลาของเราตามที่ตั้งใจไว้ นั้นก็คือ กะรังลูกแก้วนั้นเองครับ
เมื่อเรือออกจากท่าเรือ ปากบารา สมาชิกทุกคนต่างเตรียมอุปกรณ์ของตัวเองกันอย่างเต็มที่ และสำหรับมือใหม่ก็ได้รับคำแนะนำต่าง ๆ จากนักตกปลารุ่นพี่ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างการเดินทาง ซึ่งกินเวลาหลายชั่วโมง
เรียกได้ว่า ถึงจะเคยเจอกันเป็นครั้งแรกแต่สำหรับทริปนี้เรียกได้ว่าทุกคนเปิดใจ มีมิตรไมตรี กันทุกคน ผมละชอบทริปแบบนี้จริง ๆ ครับ เราเดินทางกันจนเพราะอาทิตย์จวนจะกลับขอบฟ้า ผมเลยยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศที่สวยงามมาฝากเพื่อนสมาชิกให้ได้ชมกันครับ กับภาพ Sunset at Adang and ravi island. โดยมีเรือประมง 2 ลำกำลังล่องลอยอยู่ในทะเล ท่ามกลางแสงสุดท้ายของวัน
และแล้วพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไป ความมืดเข้ามาแทนที่ กลิ่นอาหารจากท้ายเรือก็ลอยมากระตุ่นความหิวในร่างกาย แต่นั้นก็ยังไม่ถึงเวลาครับ มีเมนูออฟเดิฟ มาให้พวกเราได้ทานเรียกน้ำย่อยกันก่อน เป็นหอยหวานสด ๆ อร่อย ๆ พร้อมน้ำจิ้มซีฟูดรสเด็ด ไม่รอช้าพวกเรารวมตัวกันขึ้นไปบนชั้น 2 ของเรา นั่งทานหอยหวานกันอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนักเสียงเรียกทานข้าวก็ดังมาจากทางท้ายเรือ พวกเราทานอาหารมื้อแรกบนเรือ ฝีมือการทำกับข้าวของจุมโป้เรือลำนี้บอกเลยครับ ไม่ธรรมดา
และแล้วเราก็มาถึงหมาย กะรังลูกแก้ว เป็นที่เรียบร้อยครับ ทุกคนไม่รอช้าจัดแจงนำอุปกรณ์ของตัวเองออกมาใช้งาน และเริ่มหามุมของแต่ละคนเพื่อเริ่มเกมส์การจิ๊กกิ้ง แต่ก็ยังไม่ได้ผลเท่าไหร่นักเนื่องจากน้ำไม่ค่อยดีเท่าที่ควร แต่ทุกคนไม่ลดละความพยามและในที่สุดก็เป็นผล ทางท้ายเรือส่งเสียงว่าโดนปลา เป็นปลารับแขกของหมายกะรังลูกแล้วเลยก็ว่าได้ นั้นก็คือกระมงตาแดงนั้นเอง คนแรกที่โดนปลา นั้นก็คือ พี่สม LF นั้นเอง แต่ทุกคนต่างตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองเลยไม่มีใครไปเก็บภาพให้สำหรับปลาตัวแรก
และตัวนี้ พี่นก SLFISHING อัดขึ้นมาให้เห็นและได้เก็บภาพแล้วครับ กับ ปลากระมงตาแดง ไซด์ไม่ใหญ่มากแต่ก็พอให้ได้ตื่นเต้นแก้ง่วงไปได้พอสมควรครับพอเริ่มดึก ทุกอย่างเริ่มเงียบสงบ ปลาไม่ยอมฉวยเหยื่อ หลาย ๆ คนเริ่มเข้าไปนอนเอาแรง แต่พี่จ้อย ซึ่งได้รับคำแนะนำวิธีการจิ๊กกิ้งจากพี่ก้อง ไม่นานนักผลงานก็ขึ้นมาให็เห็นครับ เป็นปลากระมงตาแดงตัวแรกในชีวิต กับการตกปลาแบบจิ๊กกิ้งครั้งแรกของเค้าเลยนะครับ
ถัดมาเป็นผลงานของพี่ก้อง ทุ่งคาฟิชชิ่ง ที่ใช้เหยื่อแคชไปที่ชายไฟของเรือ ตามเสียงของการไล่กัดเหยื่อของปลา และก็ได้ผลครับ
ตัวนี้กินเหยื่อแคชครับ และสำหรับการตีเหยื่อแคชก็ยังได้ปลาอีกตัว จากเพื่อนวุฒิ
และแล้วค่ำคืนของการตกปลาก็หยุดลงทุกคนต่างหามุมของตัวเองนอนหลับพักผ่อน จนเวลาประมาณตี 5 ต่างก็ลุกขึ้นมาตกปลากันต่อครับ
เมื่อปลาเริ่มไม่ค่อยกินเหยื่อการปรึกษาเพื่อการแก้เกมส์เลยเกิดขึ้นสรุปกันได้ว่า เราจะเปลี่ยนหมาย โดยการย้ายจากกะรังลูกแก้วไปหาซั้ง เพื่อลองตกปลาดูครับ ย้ายหมายกันดีกว่าครับ
พี่เล็ก ดอนสัก ก็จิ๊กด้วยท่าทางการจิ๊กกิ้งที่น่าสนใจล่อให้เจ้ากระมงพร้าวเข้ามากัดเหยื่อจนได้ครับ ถึงจะตัวไม่ใหญ่มากแต่ก็เป็นกระมงพร้าวตัวแรกของทริปนี้ครับ
และก็ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นครับ พี่นกและพี่สม ยังสามารถจิ๊กปลาเก๋าขึ้นมาได้กันคนละ 1 ตัว เลยจับมาถ่ายรูปคู่กันสักหน่อย แต่ภาพนี้บอกได้เลย ร้องเป็นเพลงได้เลยว่า “รู้ไหมว่าใครใหญ่” 555
พี่ก้อง กับน้าเอก ก็เช่นกันครับ ได้ปลาขึ้นมาในเวลาใกล้เคียงกัน เลยต้องจับมาถ่ายรูปร่วมกันอีกสักภาพครับ “หนึ่งกระมงกับหนึ่งเก๋า”
และแล้วความชุลมุนก็เกิดขึ้นเมื่อเพื่อนวุฒิเริ่มจิ๊กโดนเก๋าใหญ่ ไซด์ลูกหมู
ทำให้ทุกคนมีแรงที่จะ Jigging กันเต็มที่ละแล้วพี่เล็ก ดอนสัก ก็โดนปลาเก๋าอีก 1 ตัว สถานะการณ์ในเรือเพิ่มความวุ่นวายกันเป็นอย่างมาก
งานนี้ คงต้องยอมรับครับว่าพี่เล็กเค้าหล่อจริง ๆ กับเก๋าไซด์ใหญ่ 13 กก. สำหรับเหยื่อต้องขอบคุณเหยื่อจาก LF Factory นะครับ ของเค้าดีจริง ๆ ใช้ง่าย ใช้ดี อันนี้คงต้องยกให้เค้าไปครับ
และไม่นานปลายคันน้าเอกก็ออกอาการตามในภาพครับ เอาแล้วไงเจอหลุมปลาเก๋าเค้าให้แล้วสิครับงานนี้
และนีัครับผลงานเรียกว่าไซด์ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกันครับ อาจจะเล็กกว่าของพี่เล็ก ดอนสัก นิดหน่อยครับ งานนี้
และเพื่อนวุฒิก็โดนปลาเก๋าเข้าอีก 1 ตัวงานนี้เรียกว่า ท๊อปฟอร์มจริง ๆ
และแล้วก็ถึงคราวของพี่สม LF ของเราบ้างครับ สำหรับปลาเก๋า ณ หมายนี้ เรียกว่าโดนกันทั่วหน้าเลยทีเดียว
และก็ยังมีโดนกันอีกหลายตัวเล็กบ้างใหญ่บ้าง ทำเอาพวกเราตื่นเต้นและสนุกสนานกันไปตาม ๆ กัน น้องนิ ขอถ่ายภาพปลาเก๋ารวม ๆ หล่อ ๆ สักรูปครับ
และแล้วทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้งครับ อากาศเริ่มร้อนน้ำตาย ไม่มีลมพัดแม้แต่น้อย พวกเราทานข้าวแล้วก็สรุปเดินทางกลับไปเผื่อรอตกปลาที่หมายกะรังลูกแก้วกันอีกครั้ง
เมื่อถึงหมายกะรังลูกแล้ว ทางท้ายเรือ พี่บังโหรนและโปรหยัดก็จัดการลอยสายกันที่ท้ายเรือ รอกไฟฟ้าทำงาน แต่ได้ไม่ถึงนาที สายช็อคก็ขาดทำให้เราพลาดโอกาสได้เจอเจ้า GT ไปอย่างน้าเสียดาย ความพยายามยังไม่หมดเริ่มกันใหม่ เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเราเท่าไหร่นักเมื่อตัวปลายสายฉวยเหยื่อสาย PE ได้เข้าไปพันกับขอบทำให้สายขาดไปอีกครั้ง
ความพยายามยังมีเวลาก็ยังพอมีเริ่มการลอยสายกันใหม่ เวลาผ่านไปนานพอสมควร ไม่นานรอกไฟฟ้าก็ถูกกระชากด้วยความรุนแรง ทุกคนรู้ทันทีว่านั้นคือเจ้า GT หรือปลากระมงพร้าวที่พวกเราตามหากันอยู่แน่ ๆ ด้วยพละกำลังอันมากมายของเจ้าตัวปลายสาย รอกไฟฟ้า Shimano 3000H ไม่สามารถหยุดยั้งการกระชากสายออกไปได้ จนกระทั้งระยะสายที่ออกไปมากกว่า 200 เมตร ละแล้วมันก็เริ่มช้าลง มันคงจะเริ่มหมดแรงแล้วแต่รอกไฟฟ้าก็ยังไม่สามารถที่จะเก็บสายเข้ามาได้เลย สุดท้ายการต่อสู้กับเจ้าตัวปลายสายด้วยมือก็เริ่มต้นขึ้น พี่บังโหรนใช้มือสาวสาย PE กลับมาทีละน้อย และเมื่อปลาสู้ก็ใช้ถุงมือนั้นแหละครับ เป็นเบรค ในเมื่อรอกได้ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่แล้วก็ได้เวลาที่นักตกปลาจะต่อสู้กับเจ้า GT กันแบบหมัดต่อหมัด พี่บังโหรนเก็บสายมาได้ประมาณ 100 เมตร ความเหนื่อนล้าก็เข้ามาเหยือน ไต๋ยี ก็รับหน้าที่สับเปลี่ยนในการสู้กับปลา ผมส่งถุงมือจิ๊กปลาให้กับไต๋เพื่อนป้องกันการบาดจากสาย PE ที่มีขนาดเล็กและคมกริบ ไต๋ดึงปลากลับมาเหยื่อระยะไม่ถึงร้อยเมตร พี่บังโหรนก็รับหน้าที่สาวสาย PE กลับมา พี่โปรหยัดยังถือคันเพื่อช่วยให้การดึงปลากลับมาเป็นไปได้โดยง่าย แต่เมื่อปลาใกล้ถึงเรือแล้ว คันเบ็ดและรอกนั้นทำหน้าที่เพียงเก็บสายเท่านั้น พี่บังโหรนจับสาย PE หน้าคันเบ็ดค่อย ๆ ดึงปลามาจนถึง สายช็อค และแล้วความสามัคคีและร่วมแรงร่วมใจของเราก็ประสบความสำเร็ว เจ้า GT ถูกเกี่ยวด้วยตะขอน้ำขึ้นมาบนเรือจนได้
งานนี้ต้องยกเครดิตให้ทีมสตูล จริง ๆ ครับ ทั้งพี่บังโหรน และพี่โปรหยัด รวมถึงไต๋ยี ด้วยครับ
พวกเรายังตกปลากันต่อ แต่ขอจบเรื่องเล่าสำหรับวันนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ เพราะเราได้เจอแล้วเจ้า GT กระมงพร้าวแห่ง กะรังลูกแก้ว จังหวัดสตูล ขอขอบคุณทุกท่านในทริปนี้ครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากมายครับ โอกาสหน้าคงมีโอกาสได้ร่วมทริปกันอีกครั้งครับ
ขอขอบคุณเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่านที่ติดตามอ่านกันจนจบนะครับ ถ้าชอบอย่าลืมกด Like กด Share ให้กันด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ ผม วัตร เอส.แอล.ฟิชชิ่งขอลาไปก่อนครับ
ติดตามพวกเราได้แล้ววันนี้ที่ www.facebook.com/slfishing
เพื่อน ๆ สามารถสอบถามข้อมูล ติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ เกี่ยวกับการตกปลาได้ทั้งทางเว็บไซด์และใน facebook นะครับ สนใจอุปกรณ์ตกปลา สามารถสอบถามเข้ามาได้ทาง inbox ใน facebook ได้เลยนะครับ